ลักษณะของภาษาไทย
๑. เป็นภาษาคำโดด คำโดด หมายถึง คำที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำเมื่อเข้าประโยค ความหมายจะอยู่ที่การเรียงคำ เช่นคำว่า คำว่า “กิน”
ฉันกินข้าว
ฉันกินข้าวแล้ว
ฉันกำลังจะกินข้าว

๒. ส่วนมากมีพยางค์เดียว แต่จะมีหลายพยางค์ได้โดยเกิดจาก
๒.๑ การกร่อนเสียง
หมาก ð มะ มะขาม มะม่วง มะนาว มะตูม
ตัว ð ตะ ตะขาบ ตะเข้ ตะโขง
ต้น ð ตะ ตะเคียน ตะขบ ตะไคร้
ตา ð ตะ ตะวัน ตะปู
สาย ð สะ สะดือ สะดึง สะเอว
สาว ð สะ สะใภ้
๒.๒ การแทรกเสียง คือ การเติมเสียงลงกลางระหว่างคำ ๒ คำ ทำให้เกิดเป็นคำใหม่ ๑ คำที่มีหลายพยางค์ เช่นคำว่า
ผักเฉด ð ผักกะเฉด
นกจอก ð นกกระจอก
ลูกดุม ð ลูกกระดุม
๒.๓ การเทียบแนวและเพิ่มเสียง
จุกจิก ð กระจุกกระจิก
จุ๋มจิ๋ม ð กระจุ๋มกระจิ๋ม
โดด ð กระโดด
ทำ ð กระทำ
๒.๔ เติมอุปสรรคเทียมเลียนแบบเขมร ทำให้ความหมายเปลี่ยนไปบ้าง
(กวนให้ทั่ว) คน ð ระคน (คลุก เคล้า ปะปน)
(ประสมกัน) ปน ð ปะปน (ผสมปนเปกัน)
(สาก ไม่เรียบ) คาย ð ระคาย (ทำให้คายคัน)

๓. มีตัวสะกดตรงตามมาตรา
แม่ กก - ปาก จิก รัก ลูก ดอก
แม่ กง - กาง ตุง ดัง จูง สาง
แม่ กน - คน นาน ปูน โจน เรือน
แม่ กด - ปิด พูด โดด รอด สาด
แม่ กบ - ลูบ จับ เสียบ สิบ ทาบ
แม่ กม - ดม สาม จม ริม ชาม
แม่ เกย - เลย เขย เชย โชย สาย
แม่ เกอว - เอว ราว หิว หาว

๔. ไม่มีตัวการันต์
|